ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 103 คน
การพัฒนาชุดตรวจสอบการผ่าเหล่าของยีนดับพลิวดับพลิวโอเอ็กซ์สำหรับตรวจหาการผ่าเหล่าของยีนดับพลิวดับพลิวโอเอ็กซ์ในผู้ป่วยคนไทยภาคใต้ที่เป็นมะเร็งหลอดอาหารชนิดสแควมัสเซลล์คาร์ซิโนมาโดยอาศัยเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับนิวคลีโอไทด์แบบใหม่และการแสดงออกของยีนดับพลิวดับพลิวโอเอ็กซ์ที่ผ่าเหล่า
นักวิจัย :
อดิศร รัตนพันธ์ , รุ่งอรุณ จิระตราชู , นลินี โกวิทวนาวงษ์ , กิตติพงศ์ เรียบร้อย , สมเกียรติ สรรพวีรวงศ์ ,
ปีพิมพ์ :
2567
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
29 พฤษภาคม 2567

มะเร็งหลอดอาหารมีอุบัติการณ์เป็นลำดับที่ 8 และมีอัตราการตายสูงเป็นลำดับที่ 6 จากมะเร็งทั้งหมดที่พบได้บ่อยทั่วโลก มะเร็งหลอดอาหารสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ มะเร็งหลอดอาหารชนิด Squamous Cell Carcinoma (SCC) และมะเร็งหลอดอาหารชนิด Adenocarcinoma (ADC) ซึ่งทั้งสองชนิดมีอุบัติการณ์สูงและมีอัตราการรอดชีพ 5 ปี ต่ำ ผู้ป่วยมักมาพบหมอพร้อมกับระยะของโรคที่เป็นระยะท้าย การศึกษาโดยใช้เทคนิค Whole-Genome Sequencing (WGS), Whole-Exome Sequencing (WES), และ Array comparative genomic hybridization (aCGH) แสดงในเห็นว่าการกลายพันธุ์ในหลากหลายยีนและหลากหลายตำแหน่งในแต่ละยีนมีความเกี่ยวข้องกับวิถีสัญญาณหลายๆ วิถีที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง โดยมะเร็งหลอดอาหารชนิด SCC และ ADC มักมีการเปลี่ยนแปลงไปของยีน CCND1, CCNE1, CDK6, WWOX และ RB1 การสูญเสียหรือลดลงของการแสดงออกและ Loss of heterozygosity (LOH) ของยีน WW-Domain Containing Oxidoreductase (WWOX) นั้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการรอดชีพของผู้ป่วยที่ลดลง ระยะของโรคที่สูงขึ้น การเกิดการกลับเป็นซ้ำและการแพร่กระจายของโรค รายงานความแปรผันและการกลายพันธุ์ของยีน WWOX ในมะเร็งหลอดอาหารทั้งชนิด SCC และ ADC ยังคงมีจำกัด อย่างไรก็ตาม พบว่า การเกิด SNPs และการถูกยับยั้งของการแสดงออกของยีน WWOX เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญและนำไปสู่ในการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารชนิด SCC การศึกษานี้ได้ทำการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อศึกษาการเกิดการกลายพันธุ์ของยีน WWOX ในผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการรักษา ณ ปัจจุบัน ข้อมูล Whole Exome Sequencing ของผู้ป่วย จำนวน 32 รายได้ถูกวิเคราะห์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พบว่ามีการเกิดการแปรผันของยีนแบบ SNP ขึ้นในทุกตัวอย่าง แต่มีเพียง 6 SNVs เท่าที่ตรวจพบใน Exon โดยเป็นการกลายพันธุ์แบบ Missense SNV จำนวน 4 SNVs และเป็นการกลายพันธุ์แบบ Synonymous SNV จำนวน 2 SNVs อีกทั้งตรวจพบ Novel SNP ในบางตัวอย่างอีกด้วย อย่างไรก็ตามมีเพียง จำนวน 1 Novel SNV ที่เกิดขึ้นในบริเวณ Exon จึงไม่สามารถเชื่อมโยง Novel SNV เหล่านี้กับความสัมพันธ์ของการเกิดโรคนี้ได้ ส่วนของการเกิด InDels พบว่า บางตัวอย่างไม่มีการเกิด InDel และเช่นเดียวกันกับ SNV มีการตรวจพบ Novel InDel แต่ทุก Novel InDel เกิดขึ้นที่บริเวณ Intron ของยีน WWOX จากข้อมูลทั้งหมดอาจจะสรุปได้ว่า การแปรผัน rs75559202 C>G และ rs3764340 C>G ซึ่งเป็นการกลายพันธุ์แบบ Missense Mutation ใน Exon โดยพบร่วมกันในผู้ป่วย จำนวน 9 ราย อาจเป็น Pathogenic Variation จึงจำเป็นต้องทำการศึกษาในกลุ่มประชากรที่จำนวนเพิ่มขึ้น ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาคาดหวังว่าจะสามารถประยุกต์ความรู้ไปสู่การรักษาแบบ Personalized Medicine หรืออาจจะนำไปสู่การพัฒนายา Targeted Drug ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนนำไปสู่ผลการรักษาที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีความเจ็บป่วยน้อยลงและยืดระยะการรอดชีพได้


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6069

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้